ค.ศ.
1880
ช่างตัดเย็บคอร์เซ็ท-ชุดชั้นในรัดรูป (corsetier) Johann Gottfried Spiesshofer และ พ่อค้า Michael Braun ได้ก่อตั้ง บริษัทตัดเย็บชุดชั้นในรัดรูปในนาม Spiesshofer & Braun ด้วยจักรเย็บผ้าหกเครื่องและพนักงานหกคน พวกเขาเริ่มผลิตชุดชั้นในรัดรูปในโรงเก็บของ ที่เมืองฮอยบัค(Heubach) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ภายในเวลาไม่กี่ปี บริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 150 คน
เบลล์เอป็อก (Belle Époque) ยุคสวยงามแห่งยุโรป- ผู้หญิงทุกคนอยากเหมือนจักรพรรดินี ลูกไม้สุดหรู การเน้นสรีระของหน้าอกและสะโพก ให้กระชับเข้ารูปตามอุดมคติของสาวงามในสมัยจักรวรรดิเยอรมัน
หลังจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ก่อตั้งตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างชื่อแบรนด์ใหม่ให้น่าจดจำที่ทำให้เข้าใจได้ในทุกที่
โดยได้แรงบันดาลใจจากประตูชัยฝรั่งเศส (Paris
Arc de Triomphe) “Triumph” กลายเป็นชื่อแบรนด์ใหม่
ในปี 1902 ซึ่งเป็นการยกย่องงานฝีมือและคุณภาพ
ยุค 1920
ยุคหลังสงครามถือเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมคอร์เซ็ท หรือชุดชั้นในรัดรูป: หมดยุคของคอร์เซ็ทแบบดั้งเดิมและเริ่มต้นเรื่องราวความสำเร็จของเสื้อชั้นในที่เปิดตัวครั้งแรกในปี1922
ยุค 1930
Triumph เป็นผู้นำในการพัฒนาเสื้อชั้นในรุ่นแรกที่มีสายรัดด้านหน้าและสายบ่าที่เปลี่ยนได้
ก่อตั้งสาขาแรกในต่างประเทศที่ ซัวร์ซัค (Zurzach) เขตพื้นที่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และในช่วงกลางทศวรรษ 1930 ได้เป็นผู้ผลิตคอร์เซ็ทรายใหญ่ที่สุดของทวีป
ยุค 1950
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ยุคใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น: ในปี 1950 การผลิตเริ่มขึ้นอีกครั้ง Triumph ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเปิดสำนักงานขาย สตูดิโอออกแบบ โรงงาน และศูนย์กระจายสินค้าโดยเน้นที่ตลาดยุโรป ในช่วงปี 1959 มีการแสดงแฟชั่นโชว์ที่ Berlin Hilton เป็นครั้งแรกที่นางแบบไม่สวมชุดรัดรูปภายใต้เสื้อผ้า
เป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ที่สะกดสายตาอย่างมากในขณะนั้น!
ยุค 1960
ในปี 1960 ขยายสู่ภูมิภาคเอเชีย
โดยเปิดสำนักงานขายแห่งแรกในประเทศฮ่องกงในปี 1965 จำหน่าย 92 ประเทศทั่วเอเชียและยุโรป กลุ่มผลิตภัณฑ์ "Doreen" เปิดตัวในปี 1966 ผลิตจากโพลีเอไมด์และอีลาสเทน ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในด้านรูปทรงและความสบาย
หนึ่งปีต่อมา วิศวกรฝ่ายผลิตได้ปรับปรุงเทคนิคการขึ้นรูปคัพทรงเพื่อให้เกิดการตัดเย็บที่ไร้รอยต่อ
ยุค 1970
ทศวรรษ 1970 เป็นยุคของการท้าทายข้อห้ามในเรื่องเพศ ความเย้ายวนกลายเป็นประสบการณ์ส่วนตัว
แต่ไม่ใช่ข้อจำกัดทางสังคม Nude Bra และ Butterfly Bra สนับสนุนแนวคิดนี้ ด้วยงานแสดงแฟชั่นโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทศวรรษ 70 ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เส้นทาง 25,000 กม. ที่ครอบคลุมหลายทวีป ด้วยความเป็นผู้บุกเบิกแห่งเทคโนโลยี เราได้พัฒนาผ้าน้ำหนักเบาจากวัสดุ Lycra® รุ่นใหม่ และ Nylon ซึ่งนำไปสู่นวัตกรรมของผลิตภัณฑ์เช่น เสื้อชั้นใน One Size
เสื้อชั้นในไซส์เดียวที่สามารถสวมใส่ได้กับผู้หญิงทุกสรีระ
In 1979, sloggi was born as the Triumph Group’s second global brand, introducing 'the cotton revolution.' sloggi innovates continuously so that everyone can move through the world in comfort. sloggis could be boil washed forever, keeping their shape and colours as if they were new.
1980
In the 1980s aerobics was super popular and so were the colorful workout outfits. We loved to produce trendy styles that combined maximum support with maximum comfort.
1990
The 1990s made way for Naomi Campbell and Helena Christensen as faces of Triumph. Some of the era’s most influential supermodels, they stood for power, poise, and unapologetic confidence.
Upon entering the new millennium, we were truly global. Over the course of a century - with meanwhile over 25,000 employees working for us - we had made it from a small studio of craftswomen into one of the biggest manufacturers of lingerie in the world.The "Dreams on Stage" roadshow in China featured 200 shows in 30 cities and celebrated products merging luxury with comfort: invisible wires and body-molding materials.
TODAY
We don't believe in standing still. With a diverse workforce and global influence, we constantly build on our history. Inspired by the individuality of our audience, our products are created consciously and tirelessly in conversation with the women who wear them. Our products are designed to make life of our consumers better – every day. Dedicated since 1886.